ภาพแรกนี้ไม่ใช่ดอกไม้หรอกนะคะ แต่สวยงามพอๆกัน น่ากินกว่าดอกไม้ เป็นอาหารมื้อเช้าของเราวันนี้ ใครรู้ชื่อเรียกบอกด้วยนะคะ เนื้อต้มกับน้ำพอประมาณ ทานเป็นซุปก็ได้ หรือจะทานคู่กับข้าวเกาหลีก็ รสชาติไม่เบาเลยค่ะ
ส่วนนี่เป็นเครื่องเคียง ที่ต้องอยู่คู่กับอาหารแทบทุกมื้อของเกาหลี บางอันก็ทานมาแล้ว บางอันก็ยังไม่เคยทาน ส่วนใหญ่จะหนักไปในทางแก้เลี่ยนเสียมากค่ะ
เมื่ออิ่มแล้วเราก็ขึ้นรถ โดยมีจุดหมายคือพระราชวังเคียงบ็อก ระหว่างทางเห็นเจ้าหมาน้อย ที่รูปร่างก็ไม่น้อยแล้วเหมือนกัน พันธ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ ที่บ้านเรากำลังหลงใหลเป็นหนักหน้า เลี้ยงไว้บ้านเขาสบายค่ะ เพราะหิมะตกอยู่เรื่อย
นี้ภาพถ่ายไกลๆ ของภูเขา และอนุสาวรีย์ใกล้ๆกับพระราชวัง ว่ากันว่า ตรงนี้ฮวงจุ้ยดีที่สุดค่ะ
ด้านหลังนี้ไม่ใช่นักกีฬาที่ไหนนะคะ เขาสองคนคือตำรวจนอกเครื่องแบบ ใส่สเก็ต และลาดตระเวนในบริเวณพระราชวัง เพื่อดูแลความเรียบร้อย มีท่าทางเป็นมิตร ไม่น่ากลัวเหมือนประเทศใครหว่า
เข้าสู่พื้นที่พระราชวัง เราได้เห็นซากุระสักที เพราะช่วงที่ไป (เมษาต้นๆ) ไม่มีซากุระบานให้เห็นสักเท่าไร เห็นแต่ลำต้นเปลือยๆ จะมีบางที่เท่านั้นที่ได้เห็น ทัวร์ของเราก็เลยวิ่งเข้าหาซากุระกันใหญ่เลยค่ะ
อันนี้ไม่ใช่ซากุระนะคะ เป็น ต้นบอนไซ (หรือเปล่า) แต่สังเกตุทรงผมของนางแบบ อันนี้ถอดมาจากต้นไม้ข้างๆเลยค่ะ อิอิ
ไม่ว่าที่ไหนก็มีธุรกิจถ่ายภาพ เช่าชุด กันให้เห็นอยู่เนืองๆ ที่นี่เขาขายวัฒนธรรมได้เก่งจริงๆ บ้านเราจะเอาอย่างก็ไม่น่าเกลียดนะ เช่าชุดสไบแทนก็ได้นี่นา
จบจากพระราชวัง เราก็ไปทานข้าวกัน เมนูนี้ถือเป็นไฮไลท์พิเศษของการมาที่นี่ เป็นไก่ทั้งตัว ใส่ลงในหม้อ แล้วก็ใส่โสม 2 ปี ลงไป ใส่เหล้าลงไปนิดหน่อย
ถ้าใครยังไม่ถูกปากก็เติม พริกไทยกับเกลือลงไปเพิ่มเติมได้ค่ะ
แต่ไฮไลท์สุดท้ายของวันนี้ กลับไม่ใช่เมนูอาหาร แต่สำหรับเจ้าของร้านดอกไม้อย่างเรา คือได้เห็นร้านดอกไม้ในเกาหลีค่ะ ที่นี่เขาเก๋กว่าเรามาก
ไม่ได้ตบแต่งร้านให้ดูดีมากมายนักนะคะ แต่จะเน้นไปที่ตัวดอกไม้สด หลากหลายสีสัน และหลายรูปแบบ ที่สำคัญ เยอะมาก
บ้านเราไม่ได้มีจัดเตรียมไว้แบบนี้มากนัก ถ้าไม่ใช่ร้านขายดีจริงๆ แต่ที่เขาทำแบบนี้ได้ เพราะเขามีลูกค้ามาก น่าอิจฉาเกาหลี ที่ผู้ชายโรแมนติด นิยมซื้อดอกไม้ไปมอบให้ผู้หญิงที่ตนเองรัก ในแทบทุกโอกาส เราจะเห็นว่าเขาใช้กันเยอะจริงๆ
อยากให้บ้านเราเป็นแบบนี้บ้างจังค่ะ ร้านดอกไม้จะได้เซงลี้ หอฮ่อ ไงล่ะค้า
