หลังจากตอนที่แล้ว ได้พาไปชม เกาะนามิ และชมภาพของกินยั่วน้ำลายกัน ตอนนี้จะมาที่ อุทยานแห่งชาติซอรักซาน ที่อยู่ใกล้ๆกับ หุบเขาเม้าท์ซอรัก ที่นี่จัดได้ว่าเป็นแนวเขาที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในเกาหลีค่ะ และแถมด้วยวัดนักซาน ที่ประดิษฐานของเจ้าแม่กวนอิมค่ะ

06

01

รอบๆอุทยาน จะมีทั้งโรงแรมทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ลานสำหรับกางเต้นท์ ร้านค้า ที่จอดรถ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ รวมทั้งที่นี่มีกระเช้าลอยฟ้า ความยาวถึง 1,100 เมตร (ค่านั่งขึ้นไป ประมาณ 8,000 วอน หรือราวๆ 250 บาท) ด้านบนจะมีสวนสาธารณะซอรักดง กับควันกึมซาง ซึ่งเป็นป้อมปราการอยู่เหนือยอดเขา สร้างขึ้นสมัยอาณาจักรซิลลา แต่เราไม่ได้ขึ้นไปหรอกค่ะ เราเดินไปรอบๆ วัด เพ็กทัมซา และถ่ายรูปมาฝากแทน

02 03

จะเห็นรูปปั้นหมี ใช่ไหมคะ จากที่ฟังไกด์ท้องถิ่นเล่าความเป็นมา ก็พอจับใจความได้ว่า ที่นี่ จะมีเรื่องราวของเสือ กับ หมี ที่ต่างก็ต้องการเป็นมนุษย์ ก็เลยไปขอพระเจ้าว่า จะทำอย่างไรถึงจะได้เป็นมนุษย์ พระเจ้าก็เลยบอกว่า ให้อยู่ในถ้ำเป็นเวลา 100 วัน และดำรงชีพด้วยกระเทียมและผักขมเกาหลีเท่านั้น เมื่อเสือเข้าไปอยู่ในถ้ำ และออกล่าสัตว์ไม่ได้ ความอดทนของมันหมดไปและมันก็เลิกล้มความคิดที่อยากเป็นมนุษย์ ส่วนหมีทนอยู่ในถ้ำได้ถึง 21 วัน พระเจ้าก็เลยแปลงร่างมันให้เป็นหญิงสาว เมื่อ หมีกลายเป็นหญิงสาวแล้ว มันก็ขอให้พระเจ้าหาคู่ครองกับมัน พระเจ้าเห็นว่าหญิงสาวผู้นี้มีความงดงามมาก จึงเข้าพิธีวิวาห์เสียเอง หลังจากนั้นทั้งสองได้ให้กำเนิด บุตรชายชื่อว่า ดันกุน ผู้ซึ่งในภายหลังได้ก่อตั้งอาณาจักรนามว่า โคโชซอน ในปี 2333 ก่อนคริสต์กาล และนี่ก็คืออาณาจักรแรกเริ่มในคาบสมุทรเกาหลีค่ะ

ไกด์เราบอกให้ฟังว่า ที่นี่จะมีการแบ่งความเชื่อออกเป็น 3 แบบ คือ ผู้ที่นับถือเสือ นับถือหมี และไม่นับถืออะไรเลย บ่อยครั้งทั้งสามกลุ่มนี้จะมีการทะเลาะกัน ประเทศไหนๆก็เหมือนกันนะคะ เรื่องการเมือง ศาสนา คุยกันในรถแท็กซี่ไม่ได้เลยค่ะ

04 

บริเวณนี้จะมีการรับบริจาค ร่วมสร้างหลังคาวัดด้วยค่ะ ไม่รู้ว่าเขาเขียนอะไรกัน แต่อ่านออกแต่ภาษาไทยค่ะ ว่าแต่คุณสุภานี นาคศรีสุข คือใคร ถ้าได้มาอ่านบล็อกนี้ทักทายกันมาด้วยนะคะ 🙂

06

อีกที่หนึ่งที่พลาดไม่ได้ นั่นคือ วัดนักซาน นมัสการเจ้าแม่กวนอิม ตามความเชื่อของคนเกาหลี เจ้าแม่กวนอิมจะหันหน้าไปทางทะเลตะวันออก เพื่อปกป้องชาวเกาหลี เพราะไม่ว่าจะเป็นภัยทางธรรมชาติ หรือ ทางมนุษย์ด้วยกัน คนเกาหลีจะเจอทางตะวันออกเป็นทางแรกค่ะ

07 08

แต่ต้องเดินเท้าขึ้นไปอย่างเดียวนะคะ เพราะที่นี่ไม่มีกระเช้า ใครที่เดินเหินไม่ค่อยสะดวก ตรงนี้ขอแนะนำให้พกไม้เท้าขึ้นมาด้วยนะคะ อย่างน้อยก็ช่วยลดแรงกดที่เท้าได้ ส่วนขาลงไม่ต้องห่วง ไหลลงมาได้ค่ะ แต่อย่าก้าวพลาดนะคะ เดี๋ยวจะถึง (ฆาต) เร็วขึ้นค่ะ

08-3

เห็นเด็กๆมัธยมเกาหลี เขามาทัศนศึกษากันเต็มไปหมด เลยถือโอกาสไปขอเขาถ่ายร่วมด้วย ทีแรกก็กล้าๆกลัวๆ คิดว่าเขาจะหาว่าเราโรคจิต ปรากฏว่าพอทำท่าทำทางว่าจะขอถ่ายรูปไปไม่นาน ได้รับความร่วมมือ ดีเสียยิ่งกว่าดีอีกค่ะ

08-2

เด็กๆ ฮือฮากัน เสียงดังมาก เราก็ไม่รู้ว่าเขาพูดกันว่าอะไร แต่ถ่ายกันไปหลายรูปมาก ทั้งเขาทั้งเรา ราวกับว่าเราเป็นดารามาจากต่างประเทศ แต่ไม่รู้ว่าเขาคิดยังไงกัน อยากฟังภาษาเกาหลีออกจริงๆ หรือที่จริงเขาคงชอบของแปลกๆ พอเราบอกว่า ไทยแลนด์ เขาก็ยังถ่ายไม่หยุด แถมยังแนะนำอาจารย์ มาให้ถ่ายคู่กันอีกด้วยแหละค่ะ

ยังไม่พอนะคะ พอลงมาเจอกันอีกด้านล่าง เขาก็โบกมือทักทาย และบ๊ายบายกันแบบน่าเศร้า เสียดายนะถ้ารู้จักกันนานกว่านี้ จะขอให้พาเที่ยวด้วย เหอเหอ

 

09

ถือโอกาส หามุมดีๆ สักภาพนะคะ

10

แถมท้ายด้วยสิ่งที่เราจะเห็นได้ตลอดทาง นั่นก็คือ การเปิดท้ายขายของ ที่เกาหลี ดูเป็นระเบียบมากค่ะ แล้วรถที่เขาใช้ เก็บของและตั้งโชว์ของได้อย่างลงตัว ภายในจะมีลิ้นชัก ตู้โชว์ และที่ห้อยสินค้าโชว์ได้อย่างลงตัว เลยถ่ายกลับมาให้ดูเป็นแนวคิดใหม่ เผื่อบ้านเราจะเอาไปใช้กันบ้าง

11  12

ปิดทริปวันนี้ด้วยการช็อปปิ้งเล็กน้อย พอหอมปากหอมคอ พรุ่งนี้จะเดินทางไป สวนสนุก เอเวอร์แลนด์ ที่หลายๆคนมาแล้วก็ต้องไปเยือน เห็นบอกว่าที่นั่น ดอกไม้สวยมากๆ เราจะไปดูให้เห็นกับตา ให้สมกับว่าเป็นเจ้าของร้านดอกไม้แน่นอนค่ะ