japan005.jpg
ใครที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวต่างประเทศ ยังไม่เคยไปญี่ปุ่น ลองไปดูกันนะคะ ประเทศนี้จะทำให้ตื่นตาตื่นใจ อย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเลยจริงๆ ต้องมีวีซ่านะคะ สถานฑูตอยู่ที่ ถ.วิทยุ ใกล้ๆกับสวนลุมไนท์พลาซ่า แต่ก่อนอยู่แถวอโศก มีอะไรให้เที่ยวเยอะจริงๆค่ะ

 

japan001.jpg
 เราขึ้นเครื่อง ANA กันไป ค่าตั๋วตกประมาณ 15,000 ต่อคน (ไป-กลับ) ถือว่าเราได้ราคาที่ดีมาก เราวางแผนจะไปนอนที่ไม่แพงด้วยค่ะ เบ็ดเสร็จแล้วงานนี้ใช้เงินไปไม่มาก จะแพงอย่างเดียวคือค่าอาหาร เพราะที่นั่นอาหารค่อนข้างแพงค่ะ
japan002.jpg
 ใช้เวลาบินประมาณ 8 ชั่วโมง เรามาถึงที่ สนามบินนาริตะ ที่เห็นอยู่น่าจะเป็นโรงแรมที่อยู่ใกล้สนามบิน เห็นไกลๆมีคำว่า Narita ด้วย ตอนที่ลงก็เสียวๆอยู่เหมือนกัน เพราะก่อนหน้าขึ้นเครื่องสองสามวัน มีข่าวสายการบิน One-Two-Go ตก
japan003.jpg
 ลงสนามบินแล้ว เดินไปอีกหน่อยก็เจอ สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ที่สามารถนั่งเข้าไปในตัวเมืองได้เลย จุดหมายของเราคือไปที่สถานี UENO เพื่อเดินทางไปแถว Asakusa (อาซากุสะ) ใกล้ที่พักของเรา คือ Khaosan Asakusa Hotel
japan004.jpg
 ลงที่สถานีแล้วเดินมาอีกหน่อย เจอตึกของเบียร์ Asahi ที่มีสัญลักษณ์รูปหยดน้ำ แนวนอน ใครผ่านมาทางนี้เป็นต้องถ่ายภาพนี้ จะเห็นใครๆถ่ายมากันใหญ่เลย เราก็เลยไม่น้อยหน้า ชักสัก 1 ภาพ ก่อนเดินต่อ
japan005.jpg
 หันมาอีกฟากของแม่น้ำ อาทิตย์กำลังจะตกดินพอดี แสงกำลังสวย
japan006.jpg
 สะพานนี้ไม่สูงนัก ไม่ชัน เดินไม่ต้องใช้แรงมาก  แต่ก็ไกลอยู่ดี คนที่นี่เค้าเดินกันเร็วมากค่ะ ความเร็วของการเดินคนประเทศนี้ เร็วที่สุดเท่าที่เคยเห็น
japan007.jpg
 เรามาถึงที่พัก อันนี้เป็น Hostel ค่าที่พักตกคืนละ 600-800 บาท ต่อคน เท่านั้น ไม่แพงเลยใช่มั้ยคะ ก็มันเป็น Hostel นี่นา ที่มาถ่ายจากด้านบนลงไป เพราะด้านล่างชั้น ตรงทางเข้า เป็นศูนย์รวมรองเท้านานาชาติค่ะ กลิ่นตลบอบอวลไปหมด เป็นกลิ่นรวมๆ ของทุกประเทศ ฉนั้น.. ขึ้นมาถ่ายจากข้างบนดีกว่าค่ะ
japan008.jpg
 เตียงสองชั้นค่ะ ห้องพักที่ไปนอนมีทั้งหมด 8 เตียงในห้องเดียว รวมชายหญิง นอนๆก็เสียวสันหลังนิดๆค่ะ พอดีห้องแบบ private หมด จองไม่ทัน เราเอาของมาวางเฉยๆ แล้วจะออกไปเดินเล่นสักหน่อย
japan009.jpg
 เอาของไปวางแล้วออกมาเดินเล่น สายตาก็มาหยุดอยู่ที่ตู้น้ำ ที่นี่จะเต็มไปด้วยตู้น้ำค่ะ และแปลกมากว่า ตู้น้ำหลายๆคู้ ขายน้ำชนิดเดียวกัน อยู่ติดกัน แต่ราคาต่างกัน แบบนี้ใครจะซื้อของแพงล่ะ …
japan010.jpg
 สนนราคาของน้ำที่นี่ก็ประมาณ 120-150 เยน โดยประมาณ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 40 บาท โอ้วว แพงจริงๆ ราคาน้ำเปล่าก็ประมาณนี้ เวลาหิวน้ำแล้วต้องใช้บริการ ก็เลยจะกดเลือกเอาน้ำอัดลมดีกว่า เพราะราคาก็ประมาณ 120-130 เหมือนๆกัน
japan011.jpg
 ผ่านไปเห็นขนมค่ะ ขนมหลากสีที่เห็นนี้ก็ตกราคาประมาณ 500-1200 เยน แพงเหมือนกันถ้าเทียบกับขนมบ้านเรา แต่ถ้าได้ลอง จะสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมๆ ที่ละเอียดอ่อน .. ไม่ได้โม้นะคะ เค้าค่อนข้างประดิษฐ์ประดอย แม้อะไรเพียงเล็กน้อยก็ทำกัน
japan012.jpg
 แล้วก็มาถึงวัด แถวๆ อาซากุสะ ใครๆเรียกวัดอาซากุสะกัน แต่จริงๆไม่ได้ชื่อนี้ ..แล้วชื่ออะไร ไม่รู้เหมือนกัน (แป่ว) ใครรู้บ้าง ที่นี่เวลากลางวันจะมีของฝากให้ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านเราได้ แต่นี่เรามากลางคืน ก็เลยทำได้แค่เก็บบรรยากาศไปฝากค่ะ แต่รับรองว่าบรรยากาศในตอนกลางคืน ต่างกับกลางวันม๊ากกกก มาก เพราะเงียบสงบจริงๆ
japan013.jpg
 เดินเข้ามาอีกหน่อย สัมผัสได้ถึงความขลัง + อลังการ วัดที่นี่ใหญ่โต และมีการออกแบบลวดลายที่ดูน่าเกรงขาม ของทางบ้านเราจะอ่อนช้อย แต่ของที่นี่ดูแล้วแปลกตา น่ากลัวนิดๆ
japan014.jpg
 เราอธิฐานขอพรไปหนึ่งข้อ อยากรู้ไหมขออะไร?
japan015.jpg
 ร้านอาหารใกล้ๆกันก็ปิดแล้ว ไฟมืดไปหมด น่ากินเนอะ ที่นี่เค้าจะมีตู้โชว์ของกินหน้าร้านอาหาร ที่ทำเป็นของเทียมขึ้นมาให้ดูกัน บางทีบางรูปอาจจะไม่เหมือนของจริง อย่าหลงกลนะคะ
japan016.jpg
 และแล้ว เราก็ได้กินกันซะที ออกจากวัดมา เดินกลับมาอีกสักหน่อย ฝั่งตรงข้าม มีร้านอาหารอยู่สามสี่ร้าน ร้านที่มีตู้จำหน่ายบัตรจะราคาแพงสักหน่อย แต่อีกร้านจะใช้ยืนกิน ร้านนั้นจะราคาถูกกว่าค่ะ สนนราคาตกชามละประมาณ 400-500 เยน ชามไหนมีเนื้อหมู ชามนั้นจะแพง แต่ถ้ามีกุ้งจะไม่ค่อยแพง แปลกดีเหมือนกันค่ะ

พรุ่งนี้จะพาไปดู ตอนที่ 2 รับรองสนุกว่าตอนแรกแน่นอนค่ะ…โปรดติดตามตอนต่อไป!